หมู่ถ้ำ Karla สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของชาวปูเน่และมุมไบ ที่เรียกขานรวมกับถ้ำที่อยู่ใกล้ๆ อีก ๒ แห่ง คือ หมู่ถ้ำ Bhaja และหมู่ถ้ำ Bedsa ว่า Trilogy of Caves ด้วยลักษณะร่วมคือมีความเก่าแก่พอๆ กัน จากที่ภายในอุโปสถ ไม่มีพระพุทธรูปอยู่เลย การที่ไม่มีพระพุทธรูปอยู่นี้เป็นเกณฑ์การตัดสินอายุของโบราณสถานอย่างหนึ่งว่า สร้างในสมัยพระเจ้าอโสกมหาราชหรือก่อนหน้านั้น
|
รูปแกะบนหัวเสาทุกเสา จะเหมือนกัน สวยงาม |
|
ภาษาพรหมมิหรือภาษามคธ เป็นภาษาเดียวเท่านั้นที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ใช้เพื่อเผยแผ่พระพุทธวจนะ เป็นเพราะไม่มีภาษาใดที่จะไปถึงความลึกซึ้งแห่งจิตและเจตสิก (รวมถึงรูปด้วย) เพื่อการพิจารณาไปบรรลุธรรม (วิมุตติ หรือ พระนิพพาน)ได้ |
|
กลับมาดูรูป ณ มี.ค.๕๗ ของข้าน้อย เป็นไงคะ เทียบกับรูปที่โหลดจากเว็บสมัยปู่ของปู่ ๒ รูปด้านบน |
|
ที่เห็นเป็นกลมๆใหญ่เหมือนดอกไม้คือดอกมณฑารพ |
|
ถ้ำ Karla ในหน้าฝน |
จากสภาพที่เห็นเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ที่นี่ถ้ำพุทธสร้างด้วยความมหัศจรรย์ยิ่ง สร้างด้วยหินแข็งผ่านกาลเวลาเนิ่นนาน นับ ๒,๐๐๐ กว่าปี ยังคงสภาพดีเทียบกับหมู่ถ้ำปิตาลโขรา (ลัทธิตันตระหรือยันตระ) ที่สร้างจากหินบะซอลต์ที่สร้างให้หลังประมาณ ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผุพังไปมาก
|
สิงห์หัวเสาพระเจ้าอโสก บอกถึงอายุของถ้ำได้เป็นอย่างดี ว่าเก่าแก่เพียงใด แต่สภาพ....ก็เป็นอย่างที่เห็น |
ทั้งเสาพระเจ้าอโสก ทั้งบริเวณถ้ำ ทุกส่วนอณู เป็นปาฏิหาริย์อย่างยิ่ง ที่เราชนรุ่นหลังไม่สามารถทราบได้เลยว่า สร้างได้อย่างไร จากหินแข็ง สามารถแกะ สลักเสลา ลวดลายได้สวยงาม ทนทานไม่ผุกร่อนตามกาลเวลา
|
ด้านหน้าถ้ำ |
แม้แต่เสาพระเจ้าอโสกที่อยู่ด้านหน้าถ้ำ ก็นับเป็นบุญตาอย่างยิ่ง ไม่อาจทราบได้ว่า สลักเสลาอย่างไรจึงกลมกลึงได้ถึงเพียงนี้ ไปตัดจากภูเขาลูกใดในโลกหรือจึงสามารถทำได้ยาวเพียงนี้ จนป่านนี้ยังไม่มีใครทราบที่มาของเสานี้ว่าจะมาจากภูเขาลูกใด ขนมาได้อย่างไรกัน นี่คือสิ่งมหัศจรรย์อันน่าภาคภูมิใจของเราชาวพุทธ เป็นอิทธิฤทธิ์แท้ อันปรากฏให้ชาวโลกได้เห็น
ชาวพุทธเราควรช่วยกันดูแลพุทธสถาน
ในต่างประเทศหาชาวพุทธได้ยาก
ควรสนใจดูแล
พุทธสถานจะอยู่ต่อไปให้รุ่นลูกหลานได้มีโอกาสได้ไปสักการะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น