วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หมู๋ถ้ำเคล่า Karla Caves ตอนที่ ๒

หมู่ถ้ำ Karla สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของชาวปูเน่และมุมไบ ที่เรียกขานรวมกับถ้ำที่อยู่ใกล้ๆ อีก ๒ แห่ง คือ หมู่ถ้ำ Bhaja และหมู่ถ้ำ Bedsa ว่า Trilogy of Caves ด้วยลักษณะร่วมคือมีความเก่าแก่พอๆ กัน จากที่ภายในอุโปสถ ไม่มีพระพุทธรูปอยู่เลย การที่ไม่มีพระพุทธรูปอยู่นี้เป็นเกณฑ์การตัดสินอายุของโบราณสถานอย่างหนึ่งว่า สร้างในสมัยพระเจ้าอโสกมหาราชหรือก่อนหน้านั้น

รูปแกะบนหัวเสาทุกเสา จะเหมือนกัน สวยงาม

ภาษาพรหมมิหรือภาษามคธ เป็นภาษาเดียวเท่านั้นที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ใช้เพื่อเผยแผ่พระพุทธวจนะ เป็นเพราะไม่มีภาษาใดที่จะไปถึงความลึกซึ้งแห่งจิตและเจตสิก (รวมถึงรูปด้วย) เพื่อการพิจารณาไปบรรลุธรรม (วิมุตติ หรือ พระนิพพาน)ได้
กลับมาดูรูป ณ มี.ค.๕๗ ของข้าน้อย เป็นไงคะ เทียบกับรูปที่โหลดจากเว็บสมัยปู่ของปู่ ๒ รูปด้านบน

ที่เห็นเป็นกลมๆใหญ่เหมือนดอกไม้คือดอกมณฑารพ

ถ้ำ Karla ในหน้าฝน
จากสภาพที่เห็นเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ที่นี่ถ้ำพุทธสร้างด้วยความมหัศจรรย์ยิ่ง สร้างด้วยหินแข็งผ่านกาลเวลาเนิ่นนาน นับ ๒,๐๐๐ กว่าปี ยังคงสภาพดีเทียบกับหมู่ถ้ำปิตาลโขรา (ลัทธิตันตระหรือยันตระ) ที่สร้างจากหินบะซอลต์ที่สร้างให้หลังประมาณ ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผุพังไปมาก

สิงห์หัวเสาพระเจ้าอโสก บอกถึงอายุของถ้ำได้เป็นอย่างดี ว่าเก่าแก่เพียงใด แต่สภาพ....ก็เป็นอย่างที่เห็น
ทั้งเสาพระเจ้าอโสก ทั้งบริเวณถ้ำ ทุกส่วนอณู เป็นปาฏิหาริย์อย่างยิ่ง ที่เราชนรุ่นหลังไม่สามารถทราบได้เลยว่า สร้างได้อย่างไร จากหินแข็ง สามารถแกะ สลักเสลา ลวดลายได้สวยงาม ทนทานไม่ผุกร่อนตามกาลเวลา

ด้านหน้าถ้ำ
แม้แต่เสาพระเจ้าอโสกที่อยู่ด้านหน้าถ้ำ ก็นับเป็นบุญตาอย่างยิ่ง ไม่อาจทราบได้ว่า สลักเสลาอย่างไรจึงกลมกลึงได้ถึงเพียงนี้ ไปตัดจากภูเขาลูกใดในโลกหรือจึงสามารถทำได้ยาวเพียงนี้ จนป่านนี้ยังไม่มีใครทราบที่มาของเสานี้ว่าจะมาจากภูเขาลูกใด ขนมาได้อย่างไรกัน นี่คือสิ่งมหัศจรรย์อันน่าภาคภูมิใจของเราชาวพุทธ เป็นอิทธิฤทธิ์แท้ อันปรากฏให้ชาวโลกได้เห็น


ชาวพุทธเราควรช่วยกันดูแลพุทธสถาน
ในต่างประเทศหาชาวพุทธได้ยาก
ควรสนใจดูแล
พุทธสถานจะอยู่ต่อไปให้รุ่นลูกหลานได้มีโอกาสได้ไปสักการะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น